โปรแกรม Oligio เหมาะกับใคร ? เทียบผลลัพธ์แต่ละวัย เห็นผลต่างกันยังไง?

แม้หลักการทำงานจะเหมือนกัน แต่สภาพผิวและปัญหาของคนไข้ต่างวัยอาจตอบสนองต่อการทำ Oligio ได้แตกต่างกันไป ด้านล่างนี้เป็นตัวอย่างเคสสมมติในแต่ละช่วงวัย 20+, 30+, 40+ และ 50+ ปี ว่าได้ผลลัพธ์อย่างไร และใบหน้าแบบไหนที่เหมาะกับการทำ Oligio บ้าง

วัย 20-30 ปี

วัยรุ่นหรือคนวัย 20+ ที่เหมาะกับ Oligio คือ ผู้ที่เริ่มมีสัญญาณผิวหย่อนเล็กน้อย หรือต้องการปรับรูปหน้าให้เรียวกระชับขึ้นโดยไม่ผ่าตัด เช่น คนที่มีแก้มยุ้ยเล็กน้อย กรอบหน้าไม่คมชัด หรือมีเหนียงนิดๆ แล้วอยากให้ผิวเฟิร์มขึ้น นอกจากนี้คนที่ต้องการดูแลผิวแบบ “ป้องกันไว้ก่อน” (Preventive) เพื่อชะลอการเกิดปัญหาผิวหย่อนในอนาคต ก็สามารถเริ่มทำ Oligio ได้ตั้งแต่อายุยังน้อย เนื่องจากไม่มีอันตรายและไม่ทำให้ผิวบางลง วัยนี้ผิวมักจะหนาและมีไขมันดี ทำให้ทนต่อพลังงานได้ดีและได้ประโยชน์เรื่องการสลายไขมันส่วนเกินทำให้หน้าเรียวขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ อย่างไรก็ตาม หากอายุยังน้อยและผิวแทบไม่มีปัญหาเลย การทำ Oligio อาจไม่ได้เห็นความแตกต่างมากนัก ควรทำด้วยความคาดหวังที่สมเหตุสมผล

จำนวนช็อตแนะนำ: 300–400 ช็อต
เน้นบริเวณ: กรอบหน้า, แก้มล่าง, เหนียง
เป้าหมาย: ป้องกันผิวหย่อนล่วงหน้า ปรับหน้าให้เรียวขึ้นแบบธรรมชาติ

วัย 30-40 ปี

วัย 30+ ที่เหมาะกับ Oligio คือ ผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยเล็กน้อยถึงปานกลาง เช่น เริ่มมีแก้มห้อยนิด ๆ กรอบหน้าไม่คม เหนียงใต้คาง หรือริ้วรอยตื้น ๆ บนใบหน้า การทำ Oligio จะช่วยพยุงคอลลาเจนไว้ไม่ให้เสื่อมลงไปมาก ช่วย “รีเซ็ต” ผิวให้กลับมาตึงขึ้น คล้ายเป็นการบำรุงฟื้นฟูครั้งใหญ่ปีละครั้ง คนวัยนี้ผิวยังฟื้นฟูได้ดี ทำแล้วเห็นผลยกกระชับชัดเจน แถมยังช่วยชะลอไม่ให้ต้องพึ่งหัตถการที่รุนแรงกว่า เช่น การผ่าตัด ในอนาคตเร็วเกินไป ทั้งนี้หากผิวบางคนมีชั้นไขมันค่อนข้างหนา เช่น ผู้ชายหรือคนอวบ การทำ Oligio ยังมีผลพลอยได้คือสลายไขมันใต้ผิวส่วนเกิน ทำให้ใบหน้าดูเรียวลงเล็กน้อยอีกด้วย

จำนวนช็อตแนะนำ: 400–600 ช็อต
เน้นบริเวณ: กรอบหน้า, แนวขากรรไกร, หางตา, เหนียง
เป้าหมาย: ฟื้นฟูคอลลาเจน รีเซ็ตผิวก่อนหย่อนมากขึ้น

วัย 40-50 ปี

วัย 40+ ที่เหมาะกับ Oligio คือ ผู้ที่มีความหย่อนคล้อยระดับปานกลาง และต้องการฟื้นฟูสภาพผิวโดยไม่ต้องผ่าตัด คนวัยนี้อาจได้ผลลัพธ์จาก Oligio ชัดเจนในแง่ผิวแน่นเฟิร์มและริ้วรอยตื้นจางลง แต่สำหรับความหย่อนคล้อยที่เกิดจากโครงสร้างลึก เช่น แนวกรามห้อยชัดมาก ผลการยกกระชับอาจไม่มากพอที่จะทดแทนการผ่าตัดหรือวิธีอื่นได้ การทำ Oligio ในวัยนี้จึงเหมาะเพื่อชะลอและบรรเทาปัญหา มากกว่าการแก้ให้หมดไป ผู้ที่มีผิวบางมากอาจต้องใช้พลังงานต่ำลงและยิงซ้ำในอนาคตบ่อยขึ้นเล็กน้อยเพื่อรักษาผลลัพธ์ อย่างไรก็ดี Oligio ยังมีข้อดีคือช่วยเรื่องผิวเนียนใสและกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต ทำให้ผิวดูสุขภาพดีขึ้น นอกเหนือจากเรื่องยกกระชับ ดังนั้นแม้ผลการยกกระชับอาจไม่เทียบเท่าวัยที่อายุน้อยกว่า แต่ก็ยังคุ้มค่าสำหรับการฟื้นฟูผิวโดยรวม

จำนวนช็อตแนะนำ: 600–800 ช็อต
เน้นบริเวณ: ทั่วหน้า, แนวกราม, มุมปาก, ลำคอ
เป้าหมาย: ยกกระชับผิวชั้นกลางถึงลึก ลดความหย่อนชัดเจน

วัย 50+ ปี

วัย 50+ ที่เหมาะกับ Oligio คือ ผู้ที่ต้องการฟื้นฟูสภาพผิวและยกกระชับเล็กน้อยแบบไม่ผ่าตัด และเข้าใจว่าผลลัพธ์จะไม่เท่าการผ่าตัดดึงหน้า คนไข้กลุ่มนี้อาจต้องการทำ Oligio เพื่อให้ผิวดูสุขภาพดีก่อนออกงานหรือเป็นการบำรุงรักษาผิวประจำปี เพื่อชะลอความเสื่อมมากกว่าจะหวังผลให้ใบหน้ายกตึงเหมือนวัยหนุ่มสาว สำหรับผู้ที่มีความหย่อนคล้อยมากเป็นพิเศษ แพทย์อาจแนะนำให้ทำร่วมกับหัตถการอื่น ๆ เช่น ร้อยไหมหรือฉีดฟิลเลอร์ร่วมด้วยเพื่อทดแทน volumeที่หายไป แล้วใช้ Oligio กระชับผิวส่วนเกินควบคู่กันไป อย่างไรก็ตาม หากเปรียบเทียบกับวิธีที่ไม่ผ่าตัดทั้งหมด Oligio ก็ยังถือว่าให้ผลได้มากที่สุดวิธีหนึ่งในคนวัยนี้เมื่อเทียบกับความเจ็บและค่าใช้จ่ายที่ต่ำกว่า

จำนวนช็อตแนะนำ: 800–1,000 ช็อต
เน้นบริเวณ: ทั่วหน้าและลำคอ โดยเน้นจุดหย่อนคล้อยมาก
เป้าหมาย: ฟื้นฟูผิวโดยรวม ลดความหย่อนคล้อย เตรียมผิวก่อนทำหัตถการอื่นร่วม

โปรโมชั่น

📌โปร Oligio ราคาพิเศษเฉพาะตอนนี้ !!!
ใครที่ลังเลอยู่ รีบเลยนะ! ปรึกษาหมอก่อนได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย
👉 แอด LINE: @anjaliclinic แล้วพิมพ์ว่า “สนใจ Oligio” ได้เลยค่ะ
📍กดจองตอนนี้เท่านั้นนะคะ เพราะโปรนี้มีจำนวนจำกัด

สรุป

โปรแกรม Oligio เหมาะกับคนที่เริ่มรู้สึกว่าหน้าไม่เฟิร์มเหมือนเดิม หรืออยากป้องกันไว้ก่อน

จำนวนช็อตจะอยู่ที่ประมาณ 300–1,000 แล้วแต่ช่วงวัยและปัญหาของแต่ละคนเลยค่ะ

บางคนอาจใช้มากหรือน้อยกว่านี้ ขึ้นอยู่กับใบหน้าจริง ๆของแต่ละคน บางคนหน้าอาจมีไขมันมาก หรือไม่ค่ทอยดูแลผิว อาจช้จำนวนช็อตมากหน่อยถ้ายังไม่แน่ใจ ลองเข้ามาให้หมอดูก่อนได้เลย ประเมินใบหน้า ปรึกษาไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ