Anjali clinic Logo
Oligio

สิ่งที่ต้องรู้ก่อนทำ Oligio

ถ้าใครเริ่มรู้สึกว่าหน้าเริ่มหย่อน ผิวดูไม่เฟิร์มเหมือนแต่ก่อน หรือมีปัญหาแก้มล่างเริ่มย้อย เหนียงเริ่มชัด แต่ยังไม่อยากผ่าตัดหรือทำอะไรที่ยุ่งยาก Oligio อาจเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์ได้ดีเลยค่ะ

ทีมแพทย์ Anjaliby: ทีมแพทย์ Anjaliอัพเดทเมื่อ: 2025-05-29

ถ้าใครเริ่มรู้สึกว่าหน้าเริ่มหย่อน ผิวดูไม่เฟิร์มเหมือนแต่ก่อน หรือมีปัญหาแก้มล่างเริ่มย้อย เหนียงเริ่มชัด แต่ยังไม่อยากผ่าตัดหรือทำอะไรที่ยุ่งยาก Oligio อาจเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์ได้ดีเลยค่ะ

เพราะ Oligio เป็นเครื่องมือยกกระชับผิวด้วยคลื่นความถี่วิทยุ (RF) ที่ช่วยให้ผิวแน่นขึ้น กระชับขึ้น แถมยังช่วยลดไขมันใต้ผิวบางส่วนได้อีกด้วย โดยไม่ต้องพักฟื้น และไม่เจ็บเหมือนที่หลายคนกังวล

blog image

Oligio ทำงานยังไง?

Oligio จะปล่อยพลังงานคลื่น RF ลงไปใต้ผิวที่ชั้นหนังแท้ ซึ่งเป็นชั้นที่มีคอลลาเจนและไขมันบางส่วน พลังงานที่ลงไปจะทำให้คอลลาเจนเก่าหดตัว และกระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนใหม่เพิ่มขึ้น ส่วนไขมันที่สะสมอยู่บางจุดก็จะถูกสลายออกไปบางส่วน ทำให้ใบหน้าดูเฟิร์มขึ้นและกระชับมากขึ้น

ใครที่มีแก้มล่างหรือเหนียงเล็กน้อย บอกเลยว่าเห็นผลดีมาก หน้าจะได้ทรงชัดขึ้นโดยที่ยังดูธรรมชาติ

Oligio ดียังไง ?

  • หน้าแน่นขึ้น ร่องแก้มดูตื้นขึ้นแบบไม่ต้องฉีด
  • ผิวดูเรียบขึ้น รูขุมขนเล็กลง
  • ช่วยลดแก้มล่าง เหนียงเล็กน้อย ได้แบบไม่ต้องผ่าตัด
  • ไม่ต้องพักฟื้น กลับไปใช้ชีวิตได้ทันที
  • ทำได้บ่อย และปลอดภัยกับทุกสภาพผิว

Oligio ต่างจาก HIFU ยังไง?

หลายคนเข้าใจว่า Oligio กับ HIFU เหมือนกัน แต่จริง ๆ แล้วต่างกันค่ะ

  • HIFU / CFUยิงพลังงานลึกถึงชั้น SMAS เพื่อยกกระชับแนวโครงหน้า เช่น กรอบหน้า คาง
  • Oligioยิงพลังงานตื้นกว่าที่ชั้นหนังแท้ ช่วยให้ผิวแน่น ลดความหย่อนคล้อย และช่วยลดไขมันชั้นตื้นได้

ถ้าอยากหน้าเล็กลงแบบครบ ทั้ง “ยก” และ “แน่น” ทำคู่กันยิ่งเห็นผลชัดเลยค่ะ

ใครควรทำ Oligio?

  • คนที่หน้าเริ่มหย่อน แก้มล่างมา แต่ยังไม่ถึงขั้นต้องผ่าตัด
  • คนที่รู้สึกว่ารูขุมขนกว้าง ผิวไม่เรียบ ผิวดูบาง แต่งหน้าไม่ติด
  • คนที่มีเหนียงเล็กน้อย อยากให้คางดูชัดขึ้น
  • คนที่เคยทำ HIFU แล้วอยากเติมความแน่นให้ผิว

Oligio ต้องทำบ่อยแค่ไหน?

  • โดยทั่วไปแนะนำให้ทำทุก 4–6 เดือน เพื่อคงผลลัพธ์ให้ผิวแน่นกระชับอยู่เสมอ
  • ถ้าเพิ่งเริ่ม หรือมีปัญหาชัดเจน อาจเริ่มทำถี่กว่าหน่อยในช่วงแรก (เช่น ทุก 3 เดือน)
  • แล้วแต่สภาพผิวและงบประมาณ หมอช่วยวางแผนให้ได้ค่ะ

ก่อนทำต้องเตรียมตัวยังไง?

  • หยุดใช้ครีมผลัดเซลล์ผิว (AHA, BHA, Retinol) อย่างน้อย 3 วัน
  • งดเลเซอร์หรือทรีตเมนต์แรง ๆ ก่อนทำ 2-3 วัน
  • ถ้ามีสิวอักเสบหรือผิวระคายเคือง แนะนำให้เลื่อนนัดและปรึกษาหมอก่อนค่ะ

หลังทำดูแลยังไง?

  • ทาครีมบำรุงเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว ช่วยให้คอลลาเจนสร้างได้ดีขึ้น
  • หลีกเลี่ยงความร้อนจัด เช่น ซาวน่า แดดแรง ภายใน 2 วันแรก
  • ใช้ครีมกันแดดสม่ำเสมอ โดยเฉพาะ 7 วันแรกหลังทำ
  • ถ้ามีรอยแดงเล็กน้อยจะหายได้เองในไม่กี่ชั่วโมงค่ะ

Oligio ปลอดภัยไหม?

  • ถ้าใช้เครื่องแท้ หัวใหม่ และทำโดยแพทย์ มีความปลอดภัยสูงมาก
  • ไม่มีแผล ไม่ต้องพักฟื้น และไม่มีผลกระทบกับผิวในระยะยาว
  • ที่ Anjali Clinic หมอเป็นคนดูแลเองทุกเคส ใช้เครื่องแท้และหัวใหม่แน่นอนค่ะ

Oligio เหมาะมากสำหรับคนที่อยากหน้าแน่น ลดไขมันเบา ๆ แบบธรรมชาติ ไม่ต้องพักฟื้น ไม่เจ็บ และทำได้เรื่อย ๆ

ถ้ายังไม่แน่ใจว่าเหมาะกับเราหรือไม่ ลองแวะมาคุยกับหมอก่อนได้เลยค่ะ ประเมินฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย พร้อมแนะนำให้เหมาะกับสภาพผิวและงบประมาณของแต่ละคนค่ะ

สรุป

Oligio เป็นทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูสภาพผิวให้กระชับ เต่งตึง โดยไม่ต้องเจ็บตัวหรือเสียเวลาพักฟื้น อย่างไรก็ตาม การประเมินสภาพผิวโดยแพทย์จะช่วยให้สามารถวางแผนการรักษาได้ตรงจุด และได้รับผลลัพธ์ที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูงสุด สามารถปรึกษาแพทย์ทุกท่านได้ที่ Anjali Clinic ทุกสาขานะคะ

สนใจรับคำปรึกษาเพิ่มเติม?

ติดต่อเราเพื่อรับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญและข้อมูลเกี่ยวกับบริการของเรา

บทความที่เกี่ยวข้อง

โปรแกรม Oligio + CFU คู่หูล็อกหน้าเด็ก

โปรแกรม Oligio + CFU คู่หูล็อกหน้าเด็ก

Oligio โปรแกรมผิวแน่น เด้ง ตึงแบบไม่เจ็บ! ที่วัยรุ่นนิยมทำ คืออะไร?

Oligio โปรแกรมผิวแน่น เด้ง ตึงแบบไม่เจ็บ! ที่วัยรุ่นนิยมทำ คืออะไร?

CFU คืออะไร เหมือน HIFU ไหม ?

CFU คืออะไร เหมือน HIFU ไหม ?

โปรโมชั่นประเมินใบหน้าฟรีติดต่อเราเรียกดูคนติดต่อเรา